เมื่อติดตั้ง Home Assistant บน Raspberry Pi เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้คุณเปรียบเสมือนมีคอมพิวเตอร์หรือ server ตัวเล็กๆ ตัวหนึ่งเพิ่มขึ้นมาใน network ของคุณ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมี add on เพื่อช่วยในการเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์หรือโน๊ดบุ๊คของคุณ add on ที่จำเป็น สำหรับ Home Assistant ลำดับแรกคือ add-on ประเภท editor
ในบทความนี้จะแนะนำ 3 ตัว คือ Samba share, File Editor และ Visual Studio Code ซึ่งทุกตัวจะทำให้เราสามารถเข้าถึงไฟล์หลักที่ใช้ในการตั้งค่าคือ configuration.yaml ใน home assistant ได้เหมือนกันหมด
เริ่มต้นโดยการเข้าไปที่หน้า Dashboard ของ home assistant แล้วคลิ๊กที่ Supervisor ที่ sidebar menu จากนั้นจะเห็นว่าที่หน้า Add ons เรายังไม่มี add on ใดๆ ติดตั้งอยู่ ให้คลิ๊กไปที่ Add-on Store
จะเห็น add-ons ต่างๆ จำนวนมาก ให้เลือก File editor หรือถ้ามองหาไม่เจอให้พิมพ์ File editor ในช่อง search ก็ได้ เมื่อปรากฏหน้า File editor แล้วให้คลิ๊ก Install
เมื่อทำการติดตั้งเสร็จแล้วให้คลิ๊กเปิด Show in sidebar (1) จะเห็นเมนู File editor ปรากฏที่ด้านข้าง (2) เพื่อให้สามารถเรียกใช้งานได้ง่าย หลังจากนั้นให้กด Start เพื่อทำการเริ่มใช้งานได้เลย ทดสอบโดยการคลิ๊กที่ File editor ในเมนูด้านข้าง จะปรากฏไฟล์ configuration.yaml ที่พร้อมจะทำการตั้งค่าหรือแก้ไขได้แล้ว
เริ่มต้นโดยการเข้าไปที่ Supervisor จากเมนูใน sidebar อีกครั้ง หลังจากนั้นไปที่ Add-on Store แล้วค้นหา Samba share หากหาไม่พบให้พิมพ์ค้นหาในช่อง search ก็ได้
เมื่อคลิ๊กเข้าไปแล้วให้กด Install เพื่อทำการติดตั้ง เมื่อติดตั้งเสร็จ อย่าเพิ่งกด start นะครับ ให้ไปที่ Configuration ก่อน
ให้แก้ไขเฉพาะช่อง password ซึ่งค่าเริ่มต้นจะเป็น null ให้เปลี่ยนเป็น password ที่คุณต้องการ (1) เช่น “12345678” (อยู่ในเครื่องหมายคำพูดด้วยนะครับ) หลังจากนั้นกด save (2) แล้วกลับไปที่หน้า Info (3) เพื่อทำการ start
ตอนนี้คลิ๊ก Start ได้แล้วครับ
ก่อนจะไปขั้นตอนต่อไป คุณต้องรู้ IP Address ของ home assistant ของคุณก่อน หากคุณยังไม่มีโปรแกรมที่ใช้เรียกดู แนะนำให้ติดตั้ง Wireless Network Watcher ซึ่งจะสามารถดู IP Address ของอุปกรณ์ทุกตัวที่เกาะอยู่กับ router ของคุณ ให้คุณก๊อปปี้ IP Address ของ homeassistant ของคุณไว้
จากนั้นให้เปิด File Explorer ขึ้นมา เลือกไปที่ This PC แล้วเลือก Map Network Drive
ให้พิมพ์ IP Address ของ home assistant คุณในช่อง Folder ด้วยรูปแบบ \\192.168.x.xx\config แล้วกด Finish จะปรากฏ pop up ให้ใส่ username และ password ซึ่งเราได้สร้างไว้ตอนที่ทำ configuration ก่อนหน้านี้ เมื่อใส่เสร็จแล้วให้กด OK
กลับที่ This PC อีกครั้งจะเห็น drive config ของ homeassistant เข้ามาอยู่ใน Network Location เรียบร้อยแล้ว ลองคลิ๊กเข้าไปดูจะเห็นไฟล์ต่างๆ โดยเฉพาะไฟล์ configuration.yaml ที่เป็นไฟล์หลัก ลองเปิดไฟล์นี้ด้วย Notepad+ จะเห็น ค่า config เช่นเดียวกับวิธีที่ใช้ File editor ทุกประการ สามารถทำการแก้ไขหรือเพิ่มเติมได้เลย
เริ่มต้นโดยการเข้าไปที่ Supervisor แล้วไปที่ Add-on Store เลื่อนหา Visual Studio Code หรือพิมพ์ค้นหาจากช่อง search ก็ได้ แล้วคลิ๊กเข้าไป หลังจากนั้นให้กด Install
จากนั้นให้เปิด Show in sidebar (1) เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งาน จะเห็น Visual Stuido Code ปรากฏอยู่ในเมนูด้านซ้ายมือ (2) แล้วให้ทำการ Start (3) เท่านี้ Visual Studio Code ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
ลองคลิ๊กเรียกใช้งานจากเมนู sidebar จะเห็น folder CONFIG ทั้งหมดของ home assistant เช่นกัน ให้ลองคลิ๊กไปที่ไฟล์ configuration.yaml ซึ่งเป็นไฟล์ที่ใช้งานบ่อยที่สุดในการตั้งค่าต่างๆ จะเห็นค่า config เช่นเดียวกับวิธีใช้ File Editor หรือ Samba Share สามารถแก้ไขเพิ่มเติมได้เลยครับ
Add on ที่จำเป็น สำหรับ Home Assistant ประเภท editor ทั้งสามข้างต้น ทำหน้าที่เดียวกันคือ การเข้าไปแก้ไขหรืvตั้งค่าในไฟล์ configuration.yaml แต่ละวิธีมีข้อดีข้อเสียต่างกันไป เลือกใช้ add-on ที่คุณถนัดและใช้งานสะดวกที่สุด หรือจะติดตั้งทั้งสามตัวเลยก็ไม่ว่ากันครับ