Home assistant คือ ผู้ช่วยในการรวมอุปกรณ์ IOT หรืออุปกรณ์ Smart Home ต่างยี่ห้อหรือต่างระบบให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยไม่ใช้คลาวด์ของผู้ผลิตแต่ละรายอีกต่อไป ทำให้มีความเป็นส่วนตัวอย่างแท้จริง และที่สำคัญคือ ทำงานได้แม้ไม่มีอินเทอร์เน็ต ทำให้การ สร้าง Smart Home ด้วย Home Assistant เป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ
หลายท่านคงเคยได้ทดลองใช้อุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ เช่น สวิทช์อัจฉริยะ ปลั๊กอัจฉริยะ หลอดไฟอัจฉริยะ กล้องวงจรปิด แอร์ เครื่องฟอกอากาศ และอื่นๆ อีกสารพัด และคงเคยปวดหัดกับการที่ต้องลง application ต่างๆ ตามยี่ห้อของผู้ผลิตจนเต็มมือถือไปหมด บางครั้งก็ลืมว่า app ไหนคุมอุปกรณ์ตัวไหน
Home Assistant ทำงานอย่างไร
Home Assistant เป็นโปรแกรม opensource ขนาดเล็ก ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางของระบบสมาร์ทโฮมภายในบ้านหรือสำนักงาน ช่วยให้คุณสามารถควบคุมอุปกรณ์สมาร์ทโฮมต่างๆ ได้โดยไม่ต้องใช้ cloud ของผู้ผลิตอุปกรณ์ หรือแม้กระทั่งไม่ต้องใช้อินเทอร์เน็ตตราบใดที่สัญญาณ wifi ที่จ่ายมาจาก router ในบ้านคุณยังทำงานอยู่
Home Assistant จะค้นหาอุปกรณ์สมาร์ทโฮมทั้งหมดบนเครือข่าย wifi ของคุณ คุณสามารถตั้งค่าและเชื่อมโยงอุปกรณ์เหล่านั้นให้ทำงานร่วมกันได้อย่างง่ายๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องต่างยี่ห้อหรือต่างระบบ ทั้งยังสามารถออกแบบหน้าจอ Dashboard ตามสไตล์ของคุณเองได้
การติดตั้ง Home Assistant ทำได้ไม่ยาก นิยมติดตั้งบน Raspberry Pi ทำหน้าที่เสมือน Sever ส่วนตัวของคุณในการจัดการอุปกรณ์ต่างๆ
DIY อุปกรณ์สมาร์ทโฮมขึ้นมาใช้เอง
สรุปข้อดี สร้าง Smart Home ด้วย Home Assistant
- ความเร็ว: เมื่อคุณสั่งงาน การประมวลผลทั้งหมดจะเกิดขึ้นในบ้านของคุณเอง จะไม่มีการส่งข้อมูลใดๆ ทางเว็บเซิร์ฟเวอร์ ซึ่งแตกต่างอย่างชัดเจนกับการใช้ app ของผู้ผลิตอุปกรณ์ ที่ต้องส่งคำสั่งนั้นไปยัง cloud ของผู้ผลิตก่อน แล้วจึงย้อนกลับมาที่อุปกรณ์อีกที
- ผสานอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ ให้ทำงานร่วมกันได้: คุณไม่ต้องกลัวว่าบริษัทเช่น Amazon จะห้ามไม่ให้ใช้อุปกรณ์ Google หรือ Tuya หรือ Sonoff ของคุณ
- ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว: เมื่อคุณไม่ได้ใช้ app ของผู้ผลิตอุปกรณ์ จึงไม่จำเป็นต้องลงทะเบียน หรือให้ข้อมูลส่วนตัวใดๆ รวมทั้งไม่มีการส่งข้อมูลใดๆ เข้า-ออกผ่าน cloud ของผู้ผลิตอุปกรณ์ คุณเพียงใช้อุปกรณ์ต่างๆ ในวง Lan ของคุณเอง จึงมีความปลอดภัย และมีความเป็นส่วนตัวสูง
- อิสระในการควบคุม: เนื่องจากคุณไม่ได้ใช้ cloud ของผู้ผลิตอุปกรณ์ ซึ่งบางครั้งจะมีการจำกัดการใช้งาน หรือมีการคิดค่าใช้จ่ายเพิ่ม คุณมีอิสระที่จะตัดสินใจว่าจะทำอย่างไรกับ server home assistant ของคุณได้เอง
- ความน่าเชื่อถือ: จะเกิดอะไรขึ้นหาก server ของผู้ผลิตอุปกรณ์ต่างๆ เกิดล่ม หรือหยุดให้บริการ (ผมเคยโดนมาแล้ว โดยเฉพาะในยุคแรกๆ ของอุปกรณ์อัจฉริยะต่างๆ บางบริษัทเลิกกิจการ ทำให้ app ไม่สามารถใช้งานได้) หรือแม้แต่อินเทอร์เน็ตในบ้านคุณหลุด หลายสถานการณ์ทำให้อุปกรณ์ที่เชื่อมต่อกับระบบคลาวด์ของคุณออฟไลน์ แต่ถ้าคุณใช้งาน home assistant คุณก็ไม่ต้องกังวลกับปัญหาดังกล่าว
- ฟรี ที่สำคัญ home assistant เป็น opensource สามารถใช้งานได้ฟรี มีชุมชนผู้ใช้งานขนาดใหญ่ มีผู้ช่วยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ลองเข้าไปดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ homepage ของ Home Assistant
จากข้อดีดังกล่าวข้างต้น ทำไมเราจะไม่มาทดลองใช้ Home Assistant กันล่ะ อาจต้องใช้เวลาในการเรียนรู้ซักพักนึง แต่รับรองว่าชีวิตคุณจะสะดวกสบายขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ก็มีข้อเสียบางประการเช่น ต้องมี server ลงระบบปฏิบัติการ Home Assistant เพื่อทำหน้าที่แทนคลาวด์ของผู้ผลิตอุปกรณ์ Smart Home ยี่ห้อต่างๆ แต่ปัญหานี้แก้ไขได้ง่ายโดยใช้ Raspberry Pi ซึ่งเปรียบเสมือนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก มีราคาไม่แพง การติดตั้งก็ง่าย ซึ่งคุณสามารถอ่านจากบทความ 5 ขั้นตอนติดตั้ง Home Assistant บน Raspberry Pi ได้เลยครับ